ตอนนี้ทุกฝ่ายจับตามองการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ในวันที่ 10 เมษายนนี้ ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งงสัญญาณ กดดัน มาหลายรอบ ขณะเดียวกันที่กระทรวงการคลังก็มีความเคลื่อนไหว ผู้บริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมผุ้บริหารกระทรวงการคลัง ร่วมกันแถลงข่าว ว่า แบงก์รัฐจับมือกันเดินหน้าลดดอกเบี้ย เตรียมออกโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ส่งสัญญานแบงก์อื่น ๆ ให้หันมาช่วยเหลือลูกหนี้มากขึ้น พร้อมส่งสัญญาณไปถึงแบงก์ชาติให้ช่วยลดดอกเบี้ย
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง บอกว่า เป็นห่วงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับสูงที่ 2.5% ต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่ม ทำให้มีภาระผ่อนชำระต่อเดือนเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมาแบงก์รัฐทุกแห่งได้ช่วยกันตรึงดอกเบี้ย และชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างหนี้และลดดอกเบี้ยแก่ลูกหนี้รายย่อย ตามโครงการ แบงก์รัฐลดก่อน ผ่อนภาระประชาชน ถึงแม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนรายย่อย 70,000 ล้านบาท ช่วยเกษตรกร 100,000 ล้านบาท และ ช่วยเอสเอ็มอี 70,000 ล้านบาท รวมทั้งหมดเป็นการช่วยเหลือประมาณ 300,000 ล้านบาท
ซึ่งในวันนี้แบงก์รัฐประกาศจับมือรวมกันเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง โดยมีจะมีการลดหรือตรึงดอกเบี้ย รวมถึงเตรียมออกโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 5โครงการ ซึ่งรายละเอียดกำลังอยู่ระหว่างเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงต้นเดือนเม.ย. 67 เพื่อดูแลประชาชนเพิ่มเติม ได้แก่
1. สินเชื่ออิกไนท์ ไทยแลนด์ (IGNITE THAILAND) ดำเนินการผ่านธนาคารออมสิน สนับสนุนให้เอสเอ็มอีอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์เข้าถึงสินเชื่อ อาทิ กลุ่มศูนย์กลางการท่องเที่ยว สินเชื่อศูนย์กลางการแพทย์ และศูนย์กลางอาหาร
2. โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอยู่กว่า 13 ล้านคน โดยธนาคารออมสินได้เตรียมวงเงินไว้ให้ผู้มีสิทธิดังกล่าวเข้าถึงสินเชื่อ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ
3.สินเชื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
4คำพูดจาก เว็บพนันออน. สินเชื่อที่อยู่อาศัย จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
5. สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการส่งออก จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
โฆษกกระทรวงการคลัง บอกด้วยว่า การรวมตัวของแบงก์รัฐเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในครั้งนี้ เพื่อส่งสัญญานไปถึงแบงก์ต่าง ๆ ให้หันมาช่วยเหลือลูกหนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การลดดอกเบี้ย การพักหนี้ และการช่วยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รวมทั้งคาดหวังว่าจะได้เห็นการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากแบงก์ชาติเร็วๆ นี้
"สิ่งที่จะเพิ่มเติมธนาคารบางแห่งจะต้องมาช่วยกระทรวงการคลังช่วยรัฐบาล ในการที่จะดูแลเรื่องของดอกเบี้ยต่ำให้แก่ประชาชนเพิ่มเติม จะมีการเตรียมโครงการใหม่อย่างน้อย 5 โครงการเพื่อที่จะช่วยเรื่องของการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการทุกกลุ่ม นายพรชัย กล่าว "
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแถลงข่าวของแบงก์รัฐครั้งนี้ เป็นการกดดันแบงก์ชาติให้ลดดอกเบี้ยหรือไม่ นายพรชัย ตอบว่า ธนาคารกลางแต่ละประเทศมีความเป็นอิสระ มีคณะกรรมการที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างรอบคอบ หากอยู่ในสถานการณ์ที่เงินเฟ้อยังน่าเป็นห่วง หรือ เงินเฟ้อสูง ก็สมควรใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เข้มงวด แต่หากเงินเฟ้ออยู่ในกรอบที่คาดหมายไว้ ก็มองว่าการใช้ดอกเบี้ยแบบผ่อนคลาย หรือ ดอกเบี้ยต่ำ ก็ทำได้
ราคาทองวันนี้ (22 มี.ค.2567) ย่อตัวตามต่างประเทศ "ลง 100 บาท"
รู้จัก “จันทรุปราคา” รับปรากฏการณ์ “ราหูอมจันทร์” ครั้งแรกของปี 2567
ซน ฮึง-มิน ลั่นจะเล่นทีมชาติต่อเพื่อแฟนบอลเกาหลีใต้