แฟนบอลของเบอร์ตัน อัลเบี้ยน ประมาณ 11,000 คนมาถึงสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมกับลูกโป่ง, แผ่นป้าย, ธง และความหวังที่จะล้มยักษ์ในเอฟเอ คัพ แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีเทพนิยายเกิดขึ้นเมื่อชัยชนะ 5-0 ซึ่งนำโดยจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ได้อย่างสบายไร้กังวล
ทีมจากนอกลีกและกองเชียร์ที่เดินทางตามมาด้วยสมควรพึงพอใจและไม่ควรอับอายในผลงานของพวกเขาเลย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความเหนือชั้นออกมาด้วยประตูจากหลุยส์ ซาฮา, คีแรน ริชาร์ดสัน, ไรอัน กิ๊กส์ และ 2 ประตูจากรอสซี่
จากการที่ทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเวย์น รูนี่ย์ ติดโทษห้ามแข่ง เซอร์ อเล็กซ์ ให้โอกาสนักเตะของเขาได้แก้ตัว ผู้จัดการทีมปิศาจแดง เปลี่ยนแปลงทีมเพียงตำแหน่งเดียวจากชุดที่ทำได้เพียงเสมอ 0-0 ที่สนามปิร์เอลลี่ โดยดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ได้ลงเล่นแทนที่ของริทชี่ โจนส์ ซึ่งตอนนี้ถูกยืมตัวไปอยู่กับรอยัล อันท์เวิร์ป
โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ ได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมในการลงเล่นนัดแรกที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ไม่ได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้มานานกว่า 20 เดือน นัดหลังสุดที่เขาลงเล่นที่นี่ก่อนการได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเกิดขึ้นในเกมที่เสมอกับเชลซี 1-1 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2004
ดาวยิงชาวนอร์เวย์ลงเล่นเป็นปีกขวาในแผงกองกลาง 4 คนรวมทั้งดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, จอห์น โอเชีย และคีแรน ริชาร์ดสัน ในขณะที่หลุยส์ ซาฮา และจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ลงเล่นเป็นคู่กองหน้าในนัดนี้
การเล่นแบบอดทนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วง 5 นาทีแรกเกือบจะทำให้เกิดเรื่องช็อกด้วยการขึ้นนำของเบอร์ตัน เมื่อจอน ชอว์ กองหน้าของเบอร์ตัน กระโดดขึ้นสูงกว่าเชราร์ด ปิเก้ ในกรอบเขตโทษแต่ลูกโหม่งของเขาไปไม่ตรงกรอบ
อย่างไรก็ตาม ประตูแรกในเกมนี้มาจากการต่อบอลกันอย่างสวยงามแต่เรียบง่ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ปิเก้ กองหลังชาวสเปนซึ่งมีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับริโอ เฟอร์ดินานด์ พาบอลขึ้นมาจากแดงหลังก่อนที่จะเปิดบอลอย่างงดงามไปทางซ้ายให้กับริชาร์ดสัน ที่กำลังวิ่งเติมขึ้นมา ปีกซ้ายวัย 21 ปีกระชากบอลขึ้นทางริมเส้นแล้วเปิดโค้งเข้ากลางระหว่างดาร์เรน ตินสัน กองหลังและซอล ดีนี่ย์ ผู้รักษาประตูให้ซาฮา แตะบอลจากระยะ 6 หลาเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย เป็นประตูที่ 3 ของเขาจากการลงเล่นเป็นตัวจริง 4 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 7
ปิศาจแดง ยังคงเล่นกันอย่างอดทนในการตั้งเกมขึ้นไปและก็ได้ผลจนได้ในช่วงกึ่งกลางครึ่งเวลาแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดความหวังของเบอร์ตัน ที่เล่นกันอย่างดุดันและทะนงตัวในช่วงต้นเกม
ซิลแวสตร์ ตัดบอลได้แล้วไหลบอลไปให้กับเฟล็ตเชอร์ ที่เปิดบอลต่อออกด้านข้างให้กับโซลชาร์ ดาวยิงวัย 32 ปีเปิดบอลโด่งเข้ากลางผ่านตัวของซาฮา และรอสซี่ แต่ซิลแวสตร์ ยังเติมขึ้นมาเก็บบอลไว้ได้ก่อนที่จะเปิดบอลกลับเข้ากลางไปให้กับรอสซี่ กองหน้าชาวอิตาลีแม้ว่าจะรูปร่างเล็กแต่กระโดดขึ้นได้สูงก่อนที่จะโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 23
ปิศาจแดง มีโอกาสได้ประตูที่ 3 ถึง 2 ครั้งก่อนจะจบครึ่งเวลาแรก ริชาร์ดสัน จ่ายบอลคืนกลับไปให้โซลชาร์ ได้หลุดขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดเข้ากลางแต่บอลเลยผ่านซาฮา และรอสซี่ ที่พยายามแหย่เท้าจะจิ้มบอลแต่ไม่โดนทั้งคู่
โอกาสอีกครั้งมาจากการประสานงานของคู่หัวหอก รอสซี่ พาบอลขึ้นหน้าก่อนที่จะเปิดบอลไปเข้าทางของคู่กองหน้าชาวฝรั่งเศส แต่ซาฮา ซึ่งได้หลุดเดี่ยวมีเพียงผู้รักษาประตูขวางอยู่เท่านั้น กลับทำบอลติดเท้าทำให้โอกาสงามหลุดลอยไป
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 เบอร์ตัน อัลเบี้ยน
เข้าสู่ครึ่งหลัง รอสซี่ เล่นได้อย่างโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาก็ช่วยให้ปิศาจแดง ได้ประตูที่ 3 จนได้ แทนที่จะครองบอลเอาไว้เอง กองหน้าวัย 18 ปีไหลบอลอย่างชาญฉลาดไปให้กับริชาร์ดสัน ที่วิ่งเติมขึ้นมาพอดี ปีกซ้ายทีมชาติอังกฤษกระชากบอลเข้าหาประตู หันไปมองว่าจะไหลบอลไปให้กับซาฮา ดีหรือไม่ ก่อนที่จะซัดเองจากนอกกรอบเขตโทษด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งเสียบมุมเสาไกลอย่างงดงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 52
เกมผ่านไปได้ 1 ชั่วโมง เซอร์ อเล็กซ์ เปลี่ยนตัวทีเดียว 3 คน แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และไรอัน กิ๊กส์ ได้ลงเล่นแทนที่ของเวส บราวน์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และจอห์น โอเชีย
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ ย้ายไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย ให้เนวิลล์ เล่นเป็นแบ็คขวา ในขณะที่ริโอ เล่นในตำแหน่งกองกลาง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูที่ 4 ในนาทีที่ 66 เมื่อรอสซี่ ซึ่งเล่นได้อย่างโดดเด่นเปิดบอลอย่างยอดเยี่ยมให้ซาฮา ได้หลุดเดี่ยวอีกครั้ง กองหน้าชาวฝรั่งเศสมีเวลามากเหลือเกินที่จะเลือกยิง แต่กลับทำได้ไม่ดีพอ
อย่างไรก็ตาม การสร้างสรรค์เกมของรอสซี่ ไม่ได้เสียเปล่า กิ๊กส์ ไหลบอลให้รอสซี่ ที่หน้ากรอบเขตโทษ อดีตนักเตะดาวรุ่งของปาร์ม่า เปิดบอลโด่งกลับไปเข้าทางปีกพ่อมด ที่เติมเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่กิ๊กส์ จะวอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาผ่านมือดีนี่ย์ เสียบตาข่ายที่เสาไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำเป็น 4-0 ในนาทีที่ 68
ปิศาจแดง ทำผลงานได้อย่างที่ควรจะเป็น แต่เกมนัดนี้จะเป็นที่จดจำในฐานะเป็นเกมที่ศักยภาพของรอสซี่ ได้ฉายแววออกมาอย่างชัดเจน
เพื่อให้สมบูรณ์แบบประตูสุดท้ายจึงมาจากกองหน้าร่างเล็กชาวอิตาลี จากลูกเตะมุมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ผู้เล่นของเบอร์ตัน สกัดบอลออกมาเข้าทางของรอสซี่ ซึ่งดักรอบอลอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษ เขาจับบอลจังหวะหนึ่งให้ลอยขึ้นมาก่อนที่จะซัดแบบฮาล์ฟวอลเล่ย์เต็มข้อด้วยเท้าซ้าย และด้วยการช่วยเหลือจากการแฉลบเล็กน้อยบอลลอยเข้าเสียบมุมบนอย่างสวยงามหมดจด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำออกไปเป็น 5-0 ก่อนที่จะหมดเวลาการแข่งขันไป
2 ประตูและจังหวะอีกมากมายจากความสามารถเฉพาะตัวที่โดดเด่นแสดงให้เห็นถึงผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยมของรอสซี่ และช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ได้สำเร็จ โดยจะไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม ในการแข่งขันซึ่งตอนนี้เป็นรายการที่สำคัญที่สุดในฤดูกาลนี้ของปิศาจแดง ไปแล้ว (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทิม โฮเวิร์ด 1
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ 26
เวส บราวน์ 6
จอห์น โอเชีย 22
เชราร์ด ปิเก้ 28
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 ( น. 52)
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 42 ( น. 23, 90)
หลุยส์ ซาฮา 9 ( น. 7)
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
สำรอง
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5 น. 62 จอห์น โอเชีย 22
แกรี่ เนวิลล์ 2 น. 62 เวส บราวน์ 6
ไรอัน กิ๊กส์ 11 ( น. 68)น. 62 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10
เบอร์ตัน อัลเบี้ยน
ซอล ดีนี่ย์ 31
ไรอัน ออสติน 6
เจค เซดจ์มอร์ 16
ดาร์เรน ตินสัน 5
เคธ กิลรอย 11
คริส ฮอลล์ 12
ดาร์เรน สไตรด์ 7 ( น. 32)
แอนดรูว์ คอร์เบตต์ 4
แอนดรูว์ ดูครอส 10
ฌอน ฮาร์ราด 14
จอน ชอว์ 9
สำรอง
มาร์ติน เทย์เลอร์ 13
เทอร์รี่ เฮนชอว์ 2 น. 76 เคธ กิลรอย 11
แอนดี้ ทอดด์ 19
แอรอน เวบสเตอร์ 3 น. 74 คริส ฮอลล์ 12
เดล แอนเดอร์สัน 8 น. 26 จอน ชอว์ 9
Por

By Troy